วิธีถนอมสายตา จากการจ้องจอ

วิธีถนอมสายตา จากการจ้องจอ

ทุกวันนี้เราอยู่หน้าจอกันเยอะมาก ทั้งจอโทรศัพท์มือถือ จอคอมพิวเตอร์ ซึ่งการจ้องนาน ๆ นั้นเป็นอะไรที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วย โดยเฉพาะสุขภาพสายตาของเรา วันนี้เราก็เลยมีวิธีดี ๆ มาแชร์กัน นั่นก็คือ วิธีถนอมสายตาจากการจ้องจอนั่นเอง ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้นเราไปดูกันเลย

ปรับความสว่างของห้อง

ความสว่างของห้องเป็นอีกปัจจัยเลยที่ทำให้สายตาของเราเสีย ซึ่งปัญหานี้เห็นหลายคนมาก ๆ ที่ประสบปัญหาจนถึงขั้นต้องไปหาหมอเพื่อรักษา ดังนั้นเราจึงควรปรับความสว่างให้เหมาะสม คือคนส่วนใหญ่จะทำให้ห้องมืด ๆ คือห้องมืดแต่จอสว่าง พอเป็นแบบนี้ก็คือต้องเพ่งจอหนักมา แล้วแสงจากจอมันสว่างแสบตา มันขัดแย้งกับบรรยากาศในห้อง ซึ่งนี่แหละที่ทำให้สายตาของเราเสีย มีโอกาสเป็นทั้งต้อหิน เส้นประสาทตาถูกทำลาย และหนักที่สุดคือตาบอด ดังนั้นทุกคนต้องปรับความสว่างในห้องให้เหมาะสมด้วย

ออกไปข้างนอก

จ้องจอนาน ๆ มันล้า ถ้าใครมีระเบียบห้องหรือสวนในบ้านคือจะดีมาก ๆ เพราะการพักสายตาจกาจอต่าง ๆ เพื่อหันไปมองสีเขียว ๆ ของต้นไม้ใบหญ้าจะช่วยให้สายตาเราได้พักผ่อนและยังรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย เพราะเราได้ลุกจากการนั่งท่าเดิม ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง

ถ้าใครไม่มีระเบียงหรือสวนในบ้านก็ให้เดินไปไหนมาไหนในบ้านก็ได้ จะกินขนม ทำกับข้าว จะไปนอนฟังเพลงอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องจ้องจอสักระยะนึง ก็จะช่วยให้สายตาของเราได้พักผ่อนจากการเพ่งจอและแสงสีฟ้าด้วยนั่นเอง

วางอุปกรณ์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

การวางจอเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่างเลย ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพตาที่จะมีปัญหานะ แต่เรื่องสุขภาพกายก็จะมีปัญหาด้วย ซึ่งการวางตำแหน่งที่เหมาะสมคือ วางให้ห่างจากตัวเราประมาณ 50 – 70 ซม. จัดระดับความสูงให้อยู่ที่ประมาณ 4 – 9 นิ้ว จะพอดีกับระดับสายตาโดยเราจะไม่ต้องก้มหรือเงยให้ปวดตาอละปวดคอด้วยนะ

วิธีแก้ปัญหาก็คือต้องซื้อที่วางจอหรือวางโน้ตบุ๊กนั่นเอง ที่วางขายก็มีหลากหลายแบบเลือกเอาได้เลยว่าชอบแบบไหน อันไหนเหมาะกับการใช้งานเรา อย่ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ๆ นะ เพราะการวางจอไม่ได้ส่งผลเสียแค่เรื่องสายตาแต่ส่งผลเสียถึงช่วงคอ บ่า ไหล่ รวมไปถึงหลังด้วย

กระพริบตาให้ถี่ขึ้น

เวลาเราจ้องจอ เพ่งจอนาน ๆ อัตราการกระพริบตาละลดลงจาก 20 – 22 ครั้งต่อนาที เหลือแค่เพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น คืออัตราการกระพริบตาหายไปเกือบจะ 3 ใน 4 เลยล่ะ ยิ่งเรากระพริบตาน้อยลงเท่าไหร่ ตาเราก็ยิ่งแห้งมากเท่านั้น

ดังนั้นเราก็ควรจะกระพริบตาให้ถี่ขึ้นเพื่อให้ดวงตาเรารักษาความชุ่มชื้นไว้ ตาของเราก็จะได้สามารถใช้งานได้ไปอีกนาน ๆ เลย หรืออีกวิธีแก้ปัญหาตาแห้ง นั่นก็คือการใช้น้ำยาหยอดตานั่นเอง เพราะการหยอดตาจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ตาของเราก็ไม่แห้งและใช้งานต่อเนื่องได้อีกนั่นเอง

ปรับขนาดของจอให้เหมาะสม

การปรับขนาดจอเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกสิ่งเลยล่ะ เพราะถ้าจอเล็ก ตัวหนังสือก็จะเล็กตามที่นี้เราก็จะใช้สายตาเพื่อเพ่งตัวหนังสือมากกว่าเดิม ทำให้เราใช้สายตาแบบหนักกว่าเดิมไปอีก ดังนั้นก็พยายามปรับจอให้มันพอดีกับสายตา จะทำให้เราใช้สายตาแบบพอดี ๆ ไม่ต้องเพ่งหรือต้องเบิกตามากจนเกินไป

ใส่แว่นกรองแสง

การจ้องจอ ไม่ว่าจะเป็นจอทีวี จอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์ล้วนมีแสงสีฟ้าที่คอยทำร้ายสายตาของเราตลอดเลย ดังนั้นการทำงานที่จ้องจอนาน ๆ ก็ต้องมีไอเทมที่ป้องกันแสงสีฟ้า ซึ่งนั้นก็คือ แว่นกรองแสงนั่นเอง มีทั้งแบบมีค่าสายตา ไม่มีค่าสายตา ใครที่ไม่เคยใส่แว่น อาจจะมีรำคาญใจบางในช่วงแรก ๆ แต่ใช้ไปสักพักก็จะเริ่มชินไปเอง

แหล่งที่มา : sistacafe.com