9 วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
อยากลดน้ำหนัก แต่ก็ยังอยากกิน ๆ นอน ๆ ขี้เกียจออกกำลังกายกันใช่มั้ย? บอกเลยว่าแค่เปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันนิดหน่อยก็ช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้แล้วล่ะ สำหรับสาว ๆ ออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่ก็ยังเป็นกังวลเรื่องน้ำหนักและอยากจะให้น้ำหนักลดลง วันนี้เรามี 9 วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
ชาเขียวช่วยได้
ชาเขียว เป็นพืชที่ขึ้นชื่อเรื่องสร้างสมดุลให้ร่างกาย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น เราแนะนำให้สาว ๆ จิบชาเขียวร้อนหรือเย็นเบา ๆ จะช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น และถ้ายิ่งมีเวลาออกกำลังกายด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ส่วนขนมหรือของหวานต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของชาเขียวอาจจะต้องพักไว้ก่อน เพราะอาหารเหล่านี้มักจะมีน้ำตาลและแป้งซึ่งอาจทำให้เราอ้วนกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว
เคี้ยวให้ละเอียด
รู้หรือไม่ว่าการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดรวมถึงการเคี้ยวช้า ๆ ก็มีผลต่อน้ำหนักของเราได้ นั่นก็เพราะว่าการเคี้ยวอาหารอย่างช้า ๆ และละเอียดจะทำให้ความรู้สึกอยากอาหารของเราลดลง อิ่มง่ายขึ้น ที่สำคัญการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดยังดีต่อระบบย่อยอาหารภายในร่างกายด้วย
ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร
วิธีนี้ง่ายและทรมานน้อยที่สุด แค่ดื่มน้ำประมาณ 1 – 2 แก้ว ก่อนกินข้าว 30 นาที จะช่วยให้เรารู้สึกหิวน้อยลง เพราะโดยปกติถ้าร่างกายเราขาดน้ำ ร่างกายจะส่งสัญญาณไปที่สมองทำให้เรารู้สึกหิว เมื่อดื่มน้ำไปก่อนจึงช่วยบรรเทาความหิวและทำให้เราสามารถกินข้าวได้น้อยลงนั่นเอง
เปลี่ยนวิธีกินของว่าง
ไม่ว่าจะเป็นชานมไข่มุก โดนัท เค้ก ก็อาจจะต้องพักไว้ก่อนในโปรแกรมลดน้ำหนักครั้งนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถกินขนมหรือของว่างระหว่างวันได้ แค่ลองเปลี่ยนประเภทอาหารสักนิดมาเป็นแบบที่แคลอรีต่ำและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผลไม้ที่รสไม่หวานมาก โยเกิร์ต ธัญพืช อยู่ท้องระหว่างวันแถมได้ประโยชน์ด้วยนะ
เลือกจานให้ถูกแบบ
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สาว ๆ อาจเก็บไว้ใช้ในตอนที่ทำอาหารกินที่บ้านก็ได้ มีงานวิจัยด้านฟิสิกส์อาหารระบุว่าขนาดและสีของจาน มีผลต่อความอิ่มในการกินของเราค่ะ โดยให้เลือกจานที่ขนาดไม่ใหญ่มาก และเลือกสีจานที่ตัดกับสีอาหารให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ทำให้อาหารไม่ดูน้อยจนสมองเข้าใจว่าเรายังกินไม่อิ่ม
ขยับตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ
หลายคนมีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายก็คือไม่มีเวลาค่ะ ข้อนี้เรารู้เพราะเราก็เป็น แต่สำหรับไลฟ์สไตล์สาวออฟฟิศที่วัน ๆ นั่งอยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน ลองหาโอกาสขยับตัวสักเล็กสักน้อยก็ดีเหมือนกัน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินเท้าแทนการขึ้นรถในระยะทางใกล้ ๆ บิดตัวซ้าย – ขวาตอนนั่งที่โต๊ะทำงานบ้าง ลุกออกมาเดินระหว่างวันบ้าง นอกจากจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้แล้วยังทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วยนะคะ
เริ่มมื้อเช้าด้วยอาหารที่มีโปรตีน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานเท่ากับแป้ง แต่สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นั้นถือว่ามีประโยชน์มากกว่าแป้งในหลายด้านเลยค่ะ ดังนั้นในมื้อที่สำคัญที่สุดอย่างมื้อเช้า เราเลยแนะนำให้กินอาหารที่มีโปรตีน เช่น นม ถั่ว ไข่ไก่ เนื้อปลา แทนที่จะเป็นอาหารจำพวกแป้ง นอกจากจะอยู่ท้องแล้วยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ และลดความอยากอาหารได้ด้วย
กินอย่างเป็นระบบ
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเลยค่ะ เพราะร่างกายของเรามีการทำงานเป็นเวลา ดังนั้นเพื่อให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างดี จึงต้องมีการกินอย่างเป็นระบบค่ะ เราแนะนำการกิน 2 แบบ แบบแรกคือ การนับแคลอรี ไปด้วย โดยสาว ๆ อาจจะโหลดแอปมาช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีที่กินในแต่ละวันให้ตรงกับที่ร่างกายต้องการค่ะ
การกินอีกแบบที่ช่วยให้น้ำหนักลงได้เหมือนกันก็คือการกินแบบ IF (Intermitting Fasting) ใช้วิธีนับชั่วโมงการกิน (8-9 ชั่วโมงแล้วแต่คน) กับชั่วโมงที่ห้ามกิน (14-16 ชั่วโมง) โดยจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สลายไขมัน และสร้างกล้ามเนื้อได้
ใส่ใจการนอนพักผ่อน
การนอนของเราเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการลดน้ำหนักที่เรามักมองข้ามกันค่ะ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนจาก ตี 1 ตี 2 มาเป็นนอนตั้งแต่ 4-5 ทุ่ม แล้วตื่นสัก 6-7 โมงเช้าให้ได้ชั่วโมงที่เพียงพอ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และควบคุมการเผาผลาญแคลอรีได้ดีกว่าเดิมค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่านอนดึกกันเลย
แหล่งที่มา : www.wongnai.com