คอลลลาเจน ไม่ใช่แค่บำรุงผิว ช่วยบำรุงกระดูกอีกด้วย
คุณสมบัติของคอลลาเจน
โดยคอลลาเจนเปปไทด์นั้นมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้งานได้ง่ายมากกว่า ซึ่งคอลลาเจน เปปไทด์ นั้นไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ และรับประทานง่าย โดยจะช่วยเสริมสร้างผิวให้ดูกระชับ เนียบเรียบ ช่วยลบเลือนริ้วรอบบบในหน้า ทำให้ผิวดูอ่อรเยาว์ ช่วยป้องกันและลดริ้วริย กระ ฝ้าและจุดด่างดำ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงข้อต่อ ลดรอยแผลเป็นและบำรุงเส้นผมด้วย เราเคยจัดอันดับ 20 อันดับ คอลลาเจนที่ดีที่สุด ไว้ให้แล้ว
Collagen ไม่ได้มีดีแค่บำรุงผิว
เมื่อทานคอลลาเจนเข้าไปแล้ว ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมที่สึกหรอของร่างกาย ยังช่วยในเรื่องการเพิ่มความแน่นของมวลกระดูก ช่วยลดปัญหาเรื่องผมและเล็บเปราะ ช่วยลดปริมาณ Triglyceride ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองตีบ ในหลอดเลือดได้ ช่วยเพิ่มความหนาของเส้นเอ็นทำให้เส้นเอ็นแข็ง และยังช่วยในการประสานแผลด้วย
ความจำเป็นCallagen
เมื่อคนเรามีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีการสูญเสียคอลลาเจนเฉลี่ย 1.5 ต่อปี และถ้าร่างกายไม่ได้รับหรือขาดคอลลาเจน ก็จะส่งผลกระทบต่อผิวพรรณ และสุขภาพ เช่น ผิวแห้ง มีริ้วรอบก่อนวันอันควร ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย ความมหนาของมวลกระดูกลดลง ซึ่งการป้องกันและการแก้ไขปัญหาก็คือ การเสริมสร้างคอลลาเจนเข้าสู่งร่างกาย เพื่อจะได้ช่วยในการฟื้นคืนสภาพผิว ความสดใส ซึ่งวิธีเสริมสร้างที่ง่ายที่สุดคือ การทานคอลลาเจน เพราะปลอดภับและเห็นผลได้ชันเจน คอลลาเจนเปปไทด์
ผลจากการทานcollagen
การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท้องอืด ท้องเฟ้า อาหารไม่ย่อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะหาไป เพราะว่าคอลลาเจน ได้เข้าไปช่วยซ่อมแซมระบบทางเดินอาหารและลำไส้กลับทาทำงานเป็นระบบ ผิวนุ่มนวลขึ้น ปัญหาผิวต่างๆ ก็จะหายไป คอลลาเจนจะทำให้ผิวลับมานุ่มนวลได้อีกครั้ง ช่วยให้ข้อต่อและกระดูกแข็งแรง อาการปวดเมื่อต่างๆ ก็จะลดน้อยลง เนื่องจากว่าคอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับมวลกระดูก ทำให้ไม่เปราะง่าย และยังช่วยคืนความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อและผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ยับยั้งการสร้างเม็ลเมลานิน ทำใหผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างได้ภายใน 8 สัปดาห์ เมื่อทานcollagen อย่างต่อเนื่องจะทำให้แผลจางลง ช่วยทำให้ร่างกายสดใส สุขภาพดีขึ้นได้จริง
แหล่งอาหารที่พบคอลลาเจน
ซึ่งมีทั้งในพืช ผัก ผลไม้ และในสัตว์ เช่น สาหร่ายทะเล ถั่วเหลือง เห็ดทุกชนิด ส้มโอ แอปเปิ้ล แก้วมังกร แตงกวา เป็นต้ร สำหรับในสัตว์เช่น ปลาทะเลน้ำลึก ปลาทู ปลากระเบน เป็นต้น ซึ่งจะพบในกระดูกปลาและตาปลา มีลักษณะเป็นเหมือนวุ้นใสๆ หรือแม้กระทั้งในกระดูกอ่อนของไก่และหมู สังเกตได้จากเมื่อน้ำซุปมาวางทิ้งไว้ในตู้เย็นหรือในอากาศเย็นๆ collagenจะแข็งตัวเป็นวุ้นอยู่กันถ้วย ส่วนที่ลอยยู่ผิวหน้าข้างบนก็เป็นไขมัน